วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

สิทธิ์ในหุ้น : STOCK RIGHTS

STOCK RIGHTSบริษัทจดทะเบียนบริษัทใด หากต้องการระดมทุน ก็สามารถกระทำได้โดยการออกหุ้นใหม่ซึ่งทำกันแพร่หลายมากที่สุดคือการออกหุ้นสามัญ แต่บางทีบริษัทอาจจะใช้วิธีจำหน่ายสิทธิ์การถือหุ้นเพื่อระดมทุน วิธีนี้มุ่งป้องกันมิให้สิทธิ์ของผู้ถือหุ้นเดิมถูกบั่นทอน กล่าวคือทั้งสิทธิ์ออกเสียงและสิทธิ์รับเงินปันผลจะไม่ลดลงจากเดิม ภายหลังที่มีผู้ถือหุ้นใหม่เพิ่มขึ้น

 

ยกตัวอย่างเช่น นาย ก. เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท A มีสิทธิ์ออกเสียง 10%ของบริษัท กล่าวคือหากบริษัท A มีหุ้นออกจำหน่ายแล้ว 100,000 หุ้น นาย ก.ถือไว้ 10,000 หุ้น แล้วต่อมาบริษัทA ต้องการขยายกิจการ จำเป็นต้องออกหุ้นอีก 100,000 หุ้น หากนาย ก.ไม่ซื้อหุ้นเพิ่มจากตัวหุ้นที่ออกมาใหม่ สิทธิ์การออกเสียงในบริษัทของนาย ก. ก็จะต้องลดลงไปครึ่งหนึ่งเลย ซึ่งก็ดูจะไม่ยุติธรรมสำหรับนาย ก. ใช่ป่ะ

ดังนั้น เพื่อคุ้มครองผู้ถือหุ้นเดิมให้คงไว้ซึ่งอัตราส่วนของการใช้สิทธิ์ออกเสียงและแบ่งเป็นผลกำไรไว้ที่ระดับเดิมบริษัทมักจะเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นเดิมมีสิทธิ์ซื้อหุ้นที่ออกใหม่ในราคาที่ต่ำกว่าราคาในตลาดเพื่อส่งเสริมให้ผู้ถือหุ้นเดิมซื้อหุ้นใหม่

บริษัททำเช่นนี้ นอกจากเพื่อการคุ้มครองผลประโยชน์ของผู้ร่วมทุนเดิมแล้ว ยังเพื่อป้องกันไม่ให้อำนาจการควบคุมบริษัทตกไปอยู่ในมือบุคคลอื่น ไม่ต้องปรับเปลี่ยนตัวผู้บริหารระดับสูง และช่วยให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่นด้วย

สมมุติว่า บริษัทXXX มีหุ้นในตลาดรวม 5 ล้าน หุ้นราคาตลาดหุ้นละ 50บาท บริษัทมีโครงการขยายธุรกิจหวังจะระดมทุนเพิ่มอีก 4 ล้านบาท จึงออกหุ้นใหม่ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในราคาหุ้นละ 40บาท รวม 100,000 หุ้น หุ้นใหม่ที่จะออกนี้เท่ากับ 1/50 ของจำนวนหุ้นเก่า ผู้ถือหุ้นเก่าที่ถือหุ้นไว้ทุกๆ 50 หุ้นจะมีสิทธิ์ซื้อหุ้นใหม่ในราคาหุ้นละ 40 บาท และเพื่อให้สิทธิ์การซื้อหุ้นใหม่สำหรับผู้ถือหุ้นเก่าชัดเจนยิ่งขึ้น จะมีการจำหน่ายสิทธิ์การซื้อหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นทุกคน โดยระบุว่า ผู้ถือหุ้นเดิมทุกๆ 50 หุ้น มีสิทธิ์จองซื้อหุ้นใหม่ได้ 1หุ้น ในราคา 40 บาท สิทธิ์การซื้อหุ้นที่ต่ำกว่าราคาตลาดดังกล่าวนี้เรียกว่า “สิทธิ์การซื้อหุ้น(ใหม่)” เช่นนาย ก. ,นาย ข. ถือหุ้นบริษัทXXX ไว้ 500หุ้น เขาก็จะได้รับแจ้งจากบริษัทว่า เขามีสิทธิ์จองซื้อหุ้นใหม่หุ้นละ 40 บาทรวม 10 หุ้น หากเขาต้องการจองซื้อหุ้นดังกล่าวเพียงชำระเงิน 400 บาท ก็จะซื้อหุ้นใหม่ได้ 10 หุ้น

แต่หากเขาไม่ต้องการ เขาก็สามารถขายสิทธิ์การซื้อหุ้นดังกล่าวในตลาดได้ โดยทั่วไปการคำนวณค่าของสิทธิ์การซื้อหุ้นใหม่ มักจะใช้สูตรดังนี้

EX .ค่าของสิทธิ์การซื้อหุ้นใหม่ = (ราคาหุ้นในตลาด-ค่าจองซื้อหุ้นใหม่)หารด้วย จำนวนหุ้นเก่าที่ได้สิทธิ์การจองซื้อหุ้นใหม่ อย่างในกรณีของบริษัทXXX ค่าสิทธิ์การซื้อหุ้นใหม่ = (50-40) แล้วหารด้วย 50 จึงเท่ากับ 0.2 บาท

โดยธรรมชาติแล้วค่าของสิทธิ์การซื้อหุ้น ย่อมต้องมีการเปลี่ยนแปลงตามภาวะตลาดหุ้นที่เปลี่ยนแปลงไป สมมุติว่า หากราคาหุ้นในตลาดของบริษัทXXX ขึ้นเป็นหุ้นละ 60บาท สิทธิ์การซื้อหุ้นใหม่จะต้องขึ้นเป็น 0.6 บาท ผู้มีสิทธิ์ก็ย่อมได้รับผลประโยชน์

การซื้อสิทธิ์การซื้อหุ้นใหม่นั้นมีข้อควรระวัง ดังนี้

  1. โดยสภาพทั่วไป ในช่วงที่บริษัทกำลังจำหน่ายสิทธิ์การซื้อหุ้น ราคาหุ้นจะอ่อนตัวลง เพราะมีผู้ถือหุ้นจำนวนมากยินดีขายสิทธิ์ ภายหลังครบกำหนดให้สิทธิ์การจองซื้อหุ้นใหม่แล้ว ราคาหุ้นก็จะกลับพุ่งตัวสูงขึ้น
  2. โดยทั่วไป ระยะเวลาการให้ซื้อหุ้นใหม่จะมีกำหนดเพียงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น หากผู้ถือหุ้นจองซื้อหุ้นใหม่ไม่ทันตามวันเวลาที่กำหนดไว้ ใบสำคัญที่ระบุสิทธิ์การซื้อหุ้นใหม่ก็จะกลายเป็นเศษกระดาษ
ใบสิทธิ์ซื้อหุ้นใหม่แตกต่างจากใบจองหุ้น โดยใบจองหุ้นมีผลบังคับใช้เป็นเวลาหลายปี นอกจากนี้จุดมุ่งหมายของการออกใบสิทธิ์ซื้อหุ้นใหม่กับใบจองหุ้นก็แตกต่างกัน โดยผู้ออกสิทธิ์ซื้อหุ้นใหม่มักเป็นบริษัทที่ต้องการระดมทุนทันที ส่วนผู้ออกใบจองหุ้นมักจะเป็นบริษัทที่ต้องการระดมทุนในอนาคต

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น